พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [4. มารสังยุต]
1. ปฐมวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค
ครั้งนั้น มารผู้มีบาปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้ว ได้กราบทูล
พระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
วันคืนไม่ล่วงไป ชีวิตไม่ดับไป
อายุหมุนตามสัตว์ทั้งหลาย
ดุจกงล้อหมุนตามทูบรถ ฉะนั้น
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า นี้คือมารผู้มีบาป จึงตรัสกับมาร
ผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
วันคืนล่วงไป ชีวิตดับไป
อายุของสัตว์ทั้งหลายสิ้นไป
เหมือนน้ำในแม่น้ำน้อยสิ้นไป ฉะนั้น1
ครั้งนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเรา พระสุคต
ทรงรู้จักเรา จึงหายตัวไป ณ ที่นั้นเอง
ทุติยอายุสูตรที่ 10 จบ
วรรคที่ 1 จบ
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
1. ตโปกัมมสูตร 2. นาคสูตร
3. สุภสูตร 4. ปฐมมารปาสสูตร
5. ทุติยมารปาสสูตร 6. สัปปสูตร
7. สุปติสูตร 8. นันทนสูตร
9. ปฐมอายุสูตร 10. ทุติยอายุสูตร
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [4. มารสังยุต] 2. ทุติยวรรค 2. สีหสูตร
2. ทุติยวรรค
หมวดที่ 2
1. ปาสาณสูตร
ว่าด้วยมารกลิ้งศิลา
[147] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ เขตกรุง
ราชคฤห์ สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคประทับนั่งในที่กลางแจ้งในราตรีอันมืดมิด
และฝนกำลังตกประปรายอยู่ ครั้งนั้น มารผู้มีบาปต้องการจะให้ความกลัว
ความหวาดสะดุ้ง ความขนพองสยองเกล้าเกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาค จึงเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้วกลิ้งศิลาขนาดใหญ่ลงไปในที่ใกล้พระผู้มีพระภาค
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า นี้คือมารผู้มีบาป จึงตรัสกับมาร
ผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
ถึงแม้ว่าท่านจะกลิ้งภูเขาคิชฌกูฏมาทั้งลูก
พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้หลุดพ้นแล้วโดยชอบ
ก็ไม่มีความหวั่นไหว
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงรู้จักเรา
พระสุคตทรงรู้จักเรา จึงหายตัวไป ณ ที่นั้นเอง
ปาสาณสูตรที่ 1 จบ
2. สีหสูตร
ว่าด้วยราชสีห์
[148] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคมีบริษัทหมู่ใหญ่
แวดล้อม ทรงแสดงธรรมอยู่
ครั้งนั้น มารผู้มีบาปได้มีความคิดดังนี้ว่า พระสมณโคดมนี้ มีบริษัทหมู่ใหญ่
แวดล้อม แสดงธรรมอยู่ ทางที่ดีเราพึงเข้าไปหาพระสมณโคดมถึงที่ประทับ เพื่อให้
บริษัทหลงเข้าใจผิดเถิด